เมื่อ 2 วันก่อนเห็นหุ้นที่เราเคยลงทุนตกกลับลงมาอยู่ที่ต้นทุนที่เราเคยซื้อ ก็เลยกลับเข้าไปลงทุนอีก แต่ก็มาคิดถึงเพื่อนๆที่มักจะถามเราว่าเรามีวิธีซื้อหุ้นอย่างไรไม่เคยเสียตังค์ เราก็บอกว่าเราไม่มีทฤษฎีอะไรมาก ก็แค่ใช้หลักตามพุทธศาสนาบวกหลักคิดวอเรนท์ คือมองตามความเป็นจริง อย่าโลภ แค่นั้นเอง
เราเลยอยากแบ่งปันเรื่องหุ้นที่มีชื่อย่อว่า GEL ว่าเรามองอย่างไรในขณะที่หลายคนระแวงหุ้นตัวนี้
GEL เป็นหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชี นั่นคือเรากำลังซื้อของลดราคา โอเคผ่านตามหลักวอเรนท์ แต่อัตราการทำกำไรต่ำมาก ผู้บริหารก็ต้องเหนื่อยหน่อยในการสร้างผลงานเพื่อหากำไรมากๆ แต่ดูแล้วเป็นไปได้ เพราะทีมบริหารคนหนุ่มไฟแรง มีพื้นฐานดวงดีเป็นทุน (อันนี้จำเป็นละถ้าจะลงทุน คือต้องรู้จักผู้บริหารจริง แต่เราพอดีดูดวงเป็นจริง เห็นว่าใน 2 ปีนี้ทีมนี้โอเลย) และทำงานกันเป็นทีม เมื่อปีที่แล้วเราเลยซื้อที่ 75 สตางค์ ขายที่(ถ้าจำไม่ผิด)ประมาณ 1.30 บาทมั้งนะ ถือว่ากำไรแล้วและเห็นว่าราคาเกินความเป็นจริงมาก แสดงว่าเริ่มแพงละ ก็เลยขายออก ยึดหลักความเพียงพอ ไม่โลภของศาสนา และเห็นตามเห็นจริง คืออะไรที่แพงเกินไปก็อยู่ไมไ่ด้ สรุปกไรมาก ภายในไม่เกิน 4-5 เดือน เห็นมั้ยว่าเราคิดแบบง่ายๆ อ้อลืมบอกไป ต้องดูด้วยนะว่าธุรกิจอยู่ในสิ่งจำเป็นของชีวิต ไม่เพ้อฝัน
มาวันนี้เห็นกลับมาที่ต้นทุนซื้อได้ ก็เลยลงทุนไปอีก 2 วันได้เกือบ 10% ก็โอนะ มีเงิน 1 ล้านบาทนี่ก็ไม่ต้องทำงาน มีเงินส่งเสียลูกแล้ว ตอนนี้ลงทุนเลยนะ พอใกล้บาทก็ระวังกันอีกทีนะ
เวลาเราดูผู้บริหาร เราอย่ามองแบบที่คนชอบบอกกันว่าเป็นคนดี เพราะมักจะเห็นคนบอกว่าดีเพราะได้ผลประโยชน์จากเขา เช่นเขาให้เงินเราใช้ ซึ่งไม่ควรมีอารมณ์ลำเอียงแบบนั้นในการซื้อหุ้น เช่นเห็นเขาดีแบบนั้นแบบนี้ ควรดูตามความเป็นจริงว่าบริหารจริง ทำจริง ทิศทางชัด คุมเงินดี ก็เหมือนพ่อแม่เราทำการค้านั่นแหละ
ผู้บริหารเก่งๆมักจะมีมุมมองและเป้าหมายต่างจากเรา เขาจะเน้นที่เงิน วัดกันที่เงิน แบบที่เรียกว่าทุนนิยม นั่นแหละหุ้นถึงจะพุ่ง เราเองเป็นห่วงเพราะวัฏจักรแบบนี้ไม่ยั่งยืน สิ่งที่เรากำลังพยายามทำและขณะนี้ประเทศที่เจริญแล้วอย่างอเมริกาที่เขามีประสบการณ์ความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าจากระบบเศรษฐกิจแบบนี้กำลังทำคือให้เน้นที่ value ของคน คือคุณค่าความเป็นคน อันเป็นนามธรรม การจัดการเพื่อให้คนเก่งทั้งหลายทุ่มเทด้วยความรักในองค์กรและทีมสำคัญกว่าตัวเลินระยะสั้น ผลที่ได้อาจช้าในการคืนกำไร แต่ยั่งยืนในพื้นฐานของธุรกิจ พูดแบบนี้เพราะเมื่อลงทุนซื้อหุ้นแล้วจะได้ระวัง อย่าเชื่อว่ามันจะยั่งยืน เพราะการเข้ามาจัดการบริหารไม่ได้เกิดจากเป้าหมายที่จะหล่อหลอมคนไห้เป็นทีมที่แข็งแกร่ง รักองค์กรอย่างทุ่มเท หากไปอ่านหนังสือของลี กวน ยูจะรู้ว่าเขายั่งยืนเพราะเขาสร้างที่ฐาน ประเทศอเมริกาผ่านสงครามแย่งชิงคนเก่งโดยการวัดผลแบบตัวเลขเงิน ต้องกลับมาพิจารณาใหม่และเกิดทฤษฎีการวัดผลงานกันใหม่เพื่อลดปัญหาสงครามแย่งชิงคนเก่งและเกิดสภาวะเศรษฐกิจล้มเหลวอย่างที่เห็น เพราะ no one wins
มีหุ้นอีก 3 ตัวที่เราอยากเอามาเล่า เพราะเราก็ลงทุนและกำไร เป็นกลุ่ม 3 ตัว 10 บาท แต่เอาไว้ตอนหน้า ตอนนี้ขอแบ่งปันตอนท้ายนิดนึงว่า เราในฐานะเฟืองน้อยๆ หากมีความสามารถ มาช่วยกันสร้างพื้นที่ให้คนเก่งจริง มีความสามารถจริง ได้ทำงานที่เป็นผลงานจับต้องได้มากกว่าปั่นเงิน เพราะไม่มีรูปธรรม พวกเขามีจุดอ่อนด้านการสร้างราคาผลงานของเขา เราอย่าไปเอาเปรียบเขา ชื่นชมความเหนื่อยยากและตอบแทนเขาอย่างจริงจัง อย่ากระโดดเข้ามาเอาผลประโยชน์และจากไป เพราะสุดท้ายคนพวกนี้ก็จะหายไปเหลือแต่ผู้เอาเปรียบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น